แผนที่กรมที่ดิน

แผนที่กรมที่ดิน ระบบค้นหาพิกัดและแผนที่ กรมที่ดินเปิดให้บริการทั่วประเทศ

ยุคนี้จะเดินทางไปไหนมาไหน จะให้กางแผนที่ดูเข็มทิศแล้วค่อย ๆ เดินทางถามทางไปก็คงไม่ได้เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ความสะดวกสบายในการนำทางอยู่ในมือของทุกคนบนสมาร์ทโฟน สมัยก่อนเวลาไปต่างจังหวัดเพื่อติดต่อซื้อขายที่ดิน การเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินใกล้เคียงอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะไม่รู้ว่าสำนักงานที่ดินตั้งอยู่ที่ไหน การหลงทาง ไม่ใช่แค่เสียเวลา อาจทำให้ธุรกิจเสียหายได้ หรือที่ตั้งของสำนักงานที่ดินอาจไม่ได้อยู่ในเขตท้องที่ของกรุงเทพมหานคร

กรมที่ดินเห็นความสำคัญในการอำนวยความสะดวกประชาชนและยกระดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยให้สำนักงานที่ดินทั้ง 463 แห่งทั่วประเทศปักหมุดพิกัด GPS ของสำนักงานที่ดินบน Google Maps เพื่อเชื่อมต่อกับเว็บไซต์กรมที่ดิน ทำให้สะดวกต่อการค้นหาพิกัดและแผนที่ของกรมที่ดินทั่วประเทศ นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน Google Maps ในปัจจุบันยังได้รับการพัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นและส่งผลดีต่อผู้ที่เดินทางด้วยกันในรถยนต์หลายคัน โดยสามารถแชร์ตำแหน่งให้คนที่เราแชร์ตำแหน่งด้วยรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนในขณะนั้นและสามารถแชร์ไปยังแอพพลิเคชั่นอื่น เช่น Facebook หรือ LINE ได้อีกด้วย

การหาพิกัดและแผนที่ของกรมที่ดินทั่วประเทศทำได้ง่าย ๆ

บริการค้นหาพิกัดและแผนที่กรมที่ดินทั่วประเทศ ได้ง่าย ๆ บนเว็บไซต์กรมที่ดิน สามารถใช้บริการได้แล้ววันนี้ เพียงสแกน QR Code หรือคลิกไปที่ https://www.dol.go.th/Pages/location.aspx ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถค้นหาข้อมูลได้ 3 เมนู ดังนี้

  1. ค้นหาที่ตั้งสำนักงานที่ดินในเขตกรุงเทพมหานคร
  2. ค้นหาที่ตั้งสำนักงานที่ดินจังหวัดทั่วประเทศ
  3. ค้นหาพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานที่ดินพร้อมแสดงหมายเลขโทรศัพท์ของสำนักงานที่ดิน

นับเป็นอีกหนึ่งบริการดี ๆ ของกรมที่ดิน เพื่อประชาชน อีกทั้งกรมที่ดินยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและยกระดับการให้บริการประชาชนชนอย่างต่อเนื่อง ต่อไปเรามาดูพิกัดตารางในการรังวัดและทำแผนที่ของกรมที่ดินกัน

พิกัดฉากสำหรับรังวัดและทำแผนที่กรมที่ดิน

ในการรังวัดแผนที่ในชั้นแรกเพื่อออกโฉนดที่ดินตามความหมายในกฎกระทรวง ฉบับที่ 49 (พ.ศ. 2544) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ซึ่งระบุว่า “แผนที่ชั้นแรกทำโดยวิธี ของการใช้กล้องสำรวจและอุปกรณ์วัดระยะในการจับจุดสังเกต วัดงามมุม ภาคของทิศ หรือการรังวัดด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม หรือด้วยเครื่องมือประเภทอื่นที่มีอยู่ โดยคำนวณเป็นคาพิกัดฉากสืบเนื่องจาก หมดหลักฐานแผนที่ของกรมที่ดินและคำนวณพื้นที่โดยวิธีคณิตศาสตร์จากคาพิกัดของแต่ละมุมเขต”จะเห็นได้ว่าการสำรวจแผนที่ชั้นหนึ่งต้อง “คำนวณเป็นพิกัดสี่เหลี่ยมเนื่องจากไม่มีหลักฐานของกรมที่ดิน” จึงเห็นได้ว่า “พิกัดสี่เหลี่ยม” เกิดจากการไม่มีหลักฐานบนแผนที่กรมที่ดินจึงมีความสำคัญโดยกำหนดไว้ในกฎกระทรวง

รังวัดแผนที่ของกรมที่ดินมี 2 ประเภท ดังนี้

  1. สำรวจรังวัดแผนที่ภาคพื้นดิน เป็นแบบแผนที่รังวัดที่สร้างขึ้นจากหมุดหลักฐานแผนที่ซึ่งรังวัดด้วยวิธีภาคพื้นดิน (Ground Survey Methods)
  2. สำรวจรังวัดแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ เป็นเครื่องมือแผนที่ที่สร้างขึ้นจากการสำรวจและทำแผนที่ด้วยภาพถ่ายทางอากาศ (Photogrammetry)

การจัดทำแผนที่รังวัดจึงเปรียบได้กับการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานของงานที่กรมที่ดินรับผิดชอบตั้งแต่การรังวัดในรูปแบบต่าง ๆ จนมีผลต่อเนื่องไปถึงการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดิน  ปัจจุบันกรมที่ดินมีระบบแผนที่รังวัดอยู่ 2 ระบบ คือ ระบบพิกัดมุมฉาก UTM และระบบจุดศูนย์กลางต้นทางเดิม ซึ่งกรมที่ดินมีนโยบายให้ใช้แผนที่สำรวจด้วยระบบพิกัดมุมฉาก UTM เพียงระบบเดียว มีโครงการปรับปรุงเครื่องรังวัดระบบแผนที่ศูนย์กำเนิดเดิมเป็นระบบแผนที่ระบบพิกัดฉาก UTM จัดทำแผนที่สำรวจระบบพิกัดมุมฉาก UTM ในพื้นที่โครงการสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ ระบบพิกัดมุมฉาก UTM ที่ใช้ในการคำนวณการก่อสร้างของกรมที่ดินใช้ คำนวณจากหลักฐานอินเดีย Indian พ.ศ. 2518

แนวโน้มของระบบการทำแผนที่ที่ดินในอนาคต

ปัจจุบันมีการใช้เทคนิคการสำรวจด้วยดาวเทียม GPS กันอย่างแพร่หลายเพราะสามารถให้ค่าความแม่นยำสูงถึง 1:1,000,000 (ppm) หลักฐาน WGS84 (World Geodetic Systems 1984) ซึ่งเป็นระบบอ้างอิงที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าถูกต้องและเป็นสากล แผนที่พิกัด 1:50,000 ชุด L7018 จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร นอกจากนี้ยังอ้างอิงฐานหลักฐาน WGS84 ประโยชน์ของการเปลี่ยนฐานหลักฐานมีมากมาย มีการนำระบบดาวเทียมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ลดความสับสนและความยุ่งยากในการพิสูจน์การแปลง ลดความซับซ้อนในการใช้งานระบบ GPS รวมกับระบบ GIS และข้อมูลตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง ในการเชื่อมโยงเครือข่ายการควบคุมของ Adaisy กับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาค แต่ผลกระทบของการเปลี่ยนหลักฐานก็มีมากมายเช่นกัน โดยเฉพาะงานของกรมที่ดินที่ดำเนินมากว่า 100 ปี ได้สำรวจและจัดทำหลักฐานสำคัญโครงการแผนที่หลัก แผนการพัฒนาระบบแผนที่และระบบสารสนเทศที่ดินได้จัดทำขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549-2551 โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เร่งรัดการจัดทำแผนที่ระบบพิกัด UTM ที่ระบบพิกัด Indian 1975 ทั่วประเทศ ภายในปีงบประมาณ 2551
  2. หนุนแก้กฎหมายให้ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้งของรัฐและเอกชน เป็นระบบเดียวกัน (โฉนดที่ดิน) ทั่วประเทศ
  3. สร้างแผนที่ดิจิตอลของทั้งประเทศ โดยอ้างทั้งหลักฐานเก่า (Indian1975) และหลักฐานใหม่ (WGS84)
  4. นำเข้าข้อมูลแปลงที่ดินจาก NSDI และปรับปรุงชั้นข้อมูลที่ดินลงในโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่แห่งชาติ
  5. พัฒนาระบบที่ดินอเนกประสงค์ (Multipurpose Cadastral System) เชิงสาธารณะ เพื่อตอบโจทย์ทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน และประชาชน ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้
  • แปลงที่ดินใช้เป็นหน่วยพื้นฐานของการจัดการข้อมูลเชิงพื้นที่
  • มีการเชื่อมโยงระหว่างบันทึกต่าง ๆ เช่น การถือครองที่ดิน ราคาที่ดิน และการใช้ประโยชน์ในที่ดิน